ปลากระโทง ชนิดของปลากระโทง และ อุปกรณ์ตกปลากระโทง

“ปลากระโทง” ปลาในสกุลที่นักตกปลาเชิงเกมส์ทั้งหลายไม่ว่าจะหน้าเก่า หรือ หน้าใหม่นั้นอยากจะลองตกมันขึ้นมาสักครั้ง ปลาสกุลนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่การเดินด้วยแพนหางของมัน นักตกปลาต่างพากันเรียกพฤติกรรมนี้ของมันกันว่า Tail Walk ซึ่งสิ่งนี้จะมีเฉพาะกับปลาในสกุลปลากระโทงเท่านั้น นักตกปลาทั้งหลายนั้นต่างรู้จักปลาในสกุลกระโทงดีว่ามันนั้น มีความ รุนแรงและทรงพลังเป็นอย่างมากในการสู้กับเบ็ด อีกทั้งยังในเรื่องของความเร็ว การกระโดดเพื่อเอาตัวรอด หรือแม้แต่การดำดิ่งไปให้ลึกที่สุดเพื่อที่จะหนีจากเบ็ด แต่นั้นกลับเป็นสิ่งที่ท้าทายและทำให้นักตกปลาทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือชั้นเซียน อยากที่จะทำการตกปลาในตระกูลกระโทงขึ้นมาให้ได้สักครั้ง แม้ว่าในปัจจุบันนั้นปลาในตระกูลนี้จะมีลดลงไปมากกว่าเมื่อก่อนก็ตาม

ปลากระโทงนั้นมีหลายชนิดด้วยกัน แต่นักเดินเรือและนักตกปลาบางคนนั้นจะเรียกมันว่า SPEAR FISH (อ่านว่า สเปียร์ฟิช) สำหรับปลากระโทงนั้นจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ BILL FISH หรือปลาปากแหลมนั้นเองซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมดเพียง 7 ชนิดด้วยกัน นั้นคือ

– ปลากระโทงร่ม (ในกลุ่มนักตกปลาบางคนนั้น จะเรียกกันว่า “ปลาใบ”) ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ Sailfish

– ปลากระโทงแทงดำ ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ Black Marlin

 ** ที่พบกันในประเทศไทยเท่าที่ทราบกันนั้น มีอยู่เพียง 2 ชนิดนี้เท่านั้น **

– ปลากระโทงแทงลาย ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ Striped Marlin

– ปลากระโทงแทงสีน้ำเงิน ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ Blue Marlin

– ปลากระโทงปากสั้น ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ Spearfish

– ปลากระโทงแทงขาว ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ While Marlin

ทั้ง 6 ชนิด นี้ เป็นปลากระโทงแทงที่จัดอยู่ในวงศ์ Istiophoridae

– ปลากระโทงดาบ ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ Sword Fish

ปลากระโทงดาบเป็นปลาเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในวงศ์ของ Xiphidae จากตระกูลของปลากระโทงทั้งหมด นิยมตกเป็นเกมกีฬา รวมถึงยังเป็นปลาเศรษฐกิจในประเทศทางซีกโลกตะวันตกอีกด้วย เป็นปลาที่สามารถอยู่ในความลึกของระดับน้ำทะเลได้ถึง 1,000 เมตร และยังเป็นหนึ่งในปลาที่เร็วที่สุดในโลก เคยมีบันทึกความเร็วของมันนั้นว่าเร็วถึง 64 กิโลเมตร / ชั่วโมง แต่ความเร็วที่จริงแล้วของปลากระโทงดาบนั้นยังไม่แน่ชัด มันต่างจากปลากระโทงชนิดอื่นเป็นอย่างมาก มันนั้นมีความทนทานต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างฉับพลันเป็นอย่างดี สามารถจะอยู่ในระดับผิวน้ำที่มีความอุ่นในช่วงกลางวัน และลงไปสู่ระดับน้ำลึกที่มีอุณหภูมิ ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียสได้ในช่วงกลางคืน และนักวิทยาศาสตร์ยังพึ่งทำการค้นพบว่าบริเวณปากหรือที่ผู้คนเรียกว่าดาบ ที่ควรจะเป็นจุดอ่อนที่สุดของมันนั้น กลับมีต่อมพิเศษ ที่ใช้ในการผลิตน้ำมัน ที่เคลือบบริเวณหัวไปจนถึงปากของมัน ทั้งกันน้ำ และลื่นมากเป็นพิเศษ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้ไม่อาจที่จะเปรียบเทียบกับเมือกของปลาทั่วไปได้ เพราะมันคล้ายกับจารบีเป็นอย่างมาก และนี้คือสิ่งที่มันได้ผลิตออกมาเพื่อเคลือบอาวุธของมันเอาไว้และทำให้อาวุธมันนั้นแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับปลากระโทงแทงดำ และ ปลากระโทงร่ม ในประเทศไทยนั้น เป็นปลาขนาดใหญ่ที่มักจะหาอาหารตั้งแต่บริเวณผิวน้ำไปจนถึงความลึกระดับกลางของน้ำทะเลเลยก็ว่าได้ พวกมันนั้นมักที่จะอาศัยอยู่ในบริเวณที่เรียกกันว่า กระแสน้ำทะเลเปิด หรือหากเป็นบริเวณชายฝั่งก็ต้องเป็นชายฝั่งที่มีกระแสน้ำอุ่น บ้างก็จะอาศัยอยู่ในบริเวณของ แนวหน้าผาใต้น้ำทะเล ซึ่งในบริเวณนั้นต้องมีความลึกมากกว่า 100 เมตร ขึ้นไป  ในประเทศไทยนั้นสามารถหาพวกมันได้ในทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดสตูล จนมาถึง จังหวัดระนอง เลยทีเดียว

การหาอาหารของปลากระโทงแทงนั้น  พวกมันมักที่จะทำการล่าเหยื่อที่มากันเป็นฝูงและมีขนาดเล็กกว่าพวกมัน จำพวก ปลาหมึก ปลาทูน่า ปลาอินทรีย์ ปลาอีโต้มอญ เป็นต้น ดังนั้นในบางครั้งหากสบโอกาสพวกมันก็อาจจะทำการกินเหยื่อที่นักตกปลานั้นกำลังปล่อยสายเพื่อล่อปลาชนิดอื่นที่มากันเป็นฝูงอยู่ก็เป็นได้ ในต่างประเทศนั้นนิยมที่จะใช้เหยื่อเป็น มากกว่าการที่จะทรอลลิ่งหรือใช้เหยื่อปลอมมากในการล่าปลาในตระกูลกระโทง

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตกปลากระโทงแทงดำและกระโทงร่ม

หากจะเลือกใช้อุปกรณ์ในการตกนั้นมีความเหมาะสม ก็จะแนะนำในส่วนของการตกในแบบทรอลลิ่ง โดยจะแนะนำให้เลือกใช้ตั้งแต่ 12 กิโลกรัม ขึ้นไปเพราะสำหรับปลากระโทงแทงที่พบเจอได้บ่อยในประเทศไทยของเรานั้น จะมีน้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 12 – 20 กิโลกรัม แต่หากตั้งใจที่จะตกเจ้าปลากระโทงแทงนี้โดยเฉพาะแนะนำให้เอาอุปกรณ์ที่อยู่ในระดับ 25 กิโลกรัม ขึ้นไปดีกว่า เพราะมีโอกาสสูงที่จะตกได้ปลากระโทงแทงที่มีน้ำหนักมากถึง 100 กิโลกรัมเลยก็ว่าได้ โดยในประเทศไทยของเรานั้นเคยมีการตกปลากระโทงที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกได้ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 500 กิโลกรัม และความยาวถึง 3 เมตรเลยทีเดียว

รอกตกปลานั้นควรเลือกใช้ในระบบ คานโยก หรือ LEVERDRAG ซึ่งดีที่สุดในสมัยนี้ก็ว่าได้ แต่ในระบบกงล้อ หรือ STARDRAG นั้นก็สามารถที่จะใช้ได้เช่นกันขึ้นอยู่กับความถนัดของนักตกปลา หรือขึ้นอยู่กับความพอใจในการเลือกใช้

สายเบ็ดหรือสายลีดเดอร์นั้น หากเลือกประเภทที่เป็นลวดสลิงหุ้มด้วยไนล่อนแล้ว ก็คงบอกว่าราคาจะสบายกระเป๋ารวมถึงหาได้ง่ายมากเลยทีเดียว หรือจะเลือก เป็นลวดเส้นเดียว ที่เรียกกันว่า Singer Strand wire ที่แม้ว่าเส้นผ่าศูนย์กลางจะเล็กกว่าในประเภทอื่นนั้นแต่สามารถรับแรงมหาศาลในการดึงของเจ้าปลากระโทงนั้นหายห้วงเลยทีเดียว และที่สำคัญเพื่อความสบายใจและปลอดภัยไว้ก่อน ควรจะเผื่อสายเบ็ดให้ยาวสัก 400 เมตร หรือมากกว่านั้นก็จะดีมากเลย

ในการตกปลาชนิดนี้ควรเลือกใช้ลูกหมุนในประเภท ที่มั่นใจได้ในประสิทธิภาพของความแข็งแรง นั้นก็คือชนิดที่เป็น BALL BEARING นั้นเอง หากถามถึงความนิยมนั้นก็คงเป็นชนิด BARREL ตั้งแต่เบอร์ 1/0 ไปจนถึง 2/0 นั้นเอง

ส่วนในเรื่องของตัวเบ็ดนั้น อยากจะให้นักตกปลาที่จะเลือกใช้ตัวเบ็ดคำนึงถึงขนาดของเหยื่อเป็นหลักด้วย หากตัวเบ็ดนั้นมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่แต่เหยื่อนั้นมีขนาดที่เล็ก เหยื่อนั้นก็ต้องแบกรับน้ำหนักค่อนข้างมาก ยิ่งบวกกับน้ำหนักของสายลีดเดอร์เข้าไปอีกอาจจะทำให้ปลาที่ใช้เป็นเหยื่อนั้นตายเร็วขึ้น ส่วนนักตกปลาจะใช้คันเบ็ดที่มีก้านสั้นหรือก้านยาวนั้นสามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบหรือความถนัดของตัวเองได้เลย แต่ที่สำคัญที่สุด ตัวเบ็ดจะต้องมีความคมมากเลยทีเดียวเพื่อที่จะได้เกี่ยวเข้ากับปากของปลากระโทงได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น