ต้องบอกก่อนว่าอย่าดูถูกเรือเล็กจำพวกเรือยอร์ชหางยาว เครื่องยนต์ YANMAR เป็นอันขาดเพราะถึงแม้จะเล็กแต่เรือประเภทนี้ก็สามารถที่จะจับปลาในตระกูลกระโทงได้ในหลายต่อหลายครั้ง ในปัจจุบันเรือตกปลาในประเทศไทยนั้นก็มีความเพรียบพร้อมใกล้เคียงกับในต่างประเทศมากแต่ยังมีขีดจำกัดหลายประการด้วยกันสำหรับการตกปลาที่มีขนาดใหญ่ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอาจจะยังไม่เทียบเท่ามากนัก หากนักตกปลามีความต้องการที่จะตกปลากระโทงแทงโดยเฉพาะ เมื่อมุ่งหน้าไปทางฝั่งทะเลอันดามันแล้วนั้น การที่จะติดต่อหาเรือกับไต๋เก่งๆไม่ใช่เรื่องยากเลย โดยเฉพาะที่จังหวัดสตูลซึ่งมีการจับปลากระโทงขนาดใหญ่มากๆได้ในหลายครั้งด้วยกัน ที่นั้นหากนักตกปลาได้แจ้งจุดประสงค์ว่าอยากจะตกปลาในเชิงของเกมกีฬาพิชิตเจ้าปลากระโทงยักษ์สักครั้งแล้วละก็ เรือและไต๋เรือ ก็มีมากพอที่จะทำการบริการให้นักตกปลาและช่วยในการเตรียมอุปกรณ์ของใช้ที่อำนวยความสะดวกบนเรือให้แก่นักตกปลาด้วย

การเลือกใช้เหยื่อในการตกปลากระโทงแทง สำหรับที่เคยบอกถึงการเลือกใช้เหยื่อประเภทปลาเป็นนั้นในการตกปลากระโทงนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ และสำหรับมือโปรในบ้านเราก็เช่นกัน ซึ่งจะมีการใช้เหยื่อในประเภทของ RIGGING เป็นกรรมวิธีที่เรียกได้ว่าซับซ้อนมากเลยทีเดียวเพราะมีการนำมาใช้ทั้งเหยื่อในแบบที่เป็น และแบบที่ตาย มารวมกัน และอีกแบบที่นิยมใช้กันค่อนข้างสูงนั้นก็คือการตกปลาด้วยวิธีการใช้เหยื่อปลอมหรือ ทรอลลิ่ง นั้นเอง ซึ่งการใช้ปลาปลอมนั้นอาจจะไม่ดีเท่าที่ควรนัก เลยอยากแนะนำให้นักตกปลาหันมาใช้เหยื่อในประเภทของหัวเจ๊ทมากกว่า ซึ่งสามารถที่จะใช้ได้ทั้งแบบหัวโลหะ และหัวแบบพลาสติกเลย ส่วนในฝั่งของทะเลอันดามันนั้น สีของสเกิร์ตที่จะนิยมในการใช้ล่อปลานั้นจะมีสี เขียวขาวแดง และ เขียวน้ำเงินขาว ความยาวที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ 12 ลงมาถึง 4 นิ้วเป็นต้น

หากพูดถึงในส่วนของวิธีการตกแล้วนั้น เป็นวิธีที่นักตกปลาทั่วไปโดยเฉพาะแถบทะเลอันดามันนั้นเลือกใช้กันอยู่มากพอสมควรนั้นก็ คือ วิธีการจอดเรือตกปลา นั้นเอง โดยนักตกปลาในแถบทางใต้ฝั่งทะเลอันดามันนั้นจะนิยมใช้เหยื่อปลาแบบเป็น โดยเหยื่อที่นิยมใช้ก็จะมี ปลาหมึก (Squid) , ปลาสีกุนบั้ง ( Yellowtail Scad ) หากไปในแถบจังหวัดทางใต้นั้นปลาสีกุนจะมีชื่ออีกอย่างว่าปลาเซ็กล่า ซึ่งพวกมันหากินและอาศัยรวมกันเป็นฝูงบริเวณผิวน้ำและกลางน้ำ ทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของปลากระโทง หาจับได้ง่ายจึงเหมาะที่จะเป็นเหยื่อในการใช้ตกปลากระโทงแทงนั้นเองในการตกก็จะทำการนำเหยื่อเป็นมาเกี่ยวเข้ากับเบ็ด โดยจะทำการปล่อยสายออกไป ซึ่งจะมีทุ่นในประเภทโฟมหรือลูกโป่งที่จะคอยพยุงเหยื่อเอาไว้ เพื่อป้องกันการที่เหยื่อลงลึกเกินไปและยังช่วยในเรื่องของการที่เหยื่อรับน้ำหนักของของเบ็ดและสายมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้เหยื่อนั้นตายเร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการเดียวกับที่ใช้ในการตกปลาอินทรีย์ ซึ่งในหลายๆครั้งก็มีปลากระโทงแทงนั้น เข้ามากินเหยื่อเช่นกัน

ต้องบอกว่าวิธีการตกปลากระโทงแทงในแบบจอดเรือตกนั้น มันจะใช้จะงอยปากของมันที่แหลว เรียว และแข็งแรง ทำการฟาดเหยื่อจนบอบช้ำปางตายเสียก่อน ก่อนที่จะทำการคาบเหยื่อ(สไตร์เหยื่อ) พร้อมกับว่ายไปไม่เกิน 30 เมตร ด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก และหยุดพร้อมทำการกลืนเหยื่อลงไปก่อนจะว่ายออกไปจากในบริเวณนั้น ซึ่งความผิดพลาดของนักตกปลาโดยส่วนใหญ่แล้วนั้น มักที่จะตวัดเบ็ดตกปลาในช่วงของการออกว่ายรอบแรกของปลากระโทงแทง ซึ่งจะทำให้ตัวเบ็ดนั้นไม่สามารถจะฝังตัวหรือเกี่ยวไปถึงบริเวณเงี่ยงได้ เพราะบริเวณปากของปลากระโทงแทงนั้นเป็นกระดูกที่มีความแข็งมาก การกินเหยื่อของประกระโทงแทงนั้นเรียกว่าแตกต่างจากปลาอินทรีย์ รวมไปถึง ปลาสากเป็นอย่างมาก เพราะการไม่กลืนเหยื่อลงไปในทีเดียวนั้นบวกกับความแข็งของปาก หากผู้ตกเรียนรู้พฤติกรรมการกินตามธรรมชาติของปลากระโทงแทงแบบนี้แล้ว จึงอยากจะแนะนำว่า พอปลากระโทงแทงทำการลากเหยื่อไปไม่เกิน 30 เมตรเพื่อที่จะทำการกลืนเหยื่อลงไปในกระเพาะแล้ว จึงค่อยทำการสาวสายรอก มิเช่นนั้นหากทำการสาวเพื่อนำปลาขึ้นมาตั้งแต่แรกนั้นโอกาสที่ปลากระโทงแทงหลุดไปถือว่าสูงมากเลยทีเดียว ในการสาวรอก ต้องระวังเรื่องของสายที่อาจจะขมวดกัน หรือระวังสายที่จะไปเกี่ยวกับสิ่งของต่างๆ เพราะทันที่ๆปลากลืนเหยื่อเสร็จมันจะทำการว่ายต่อและสายเบ็ดอาจจะขาดได้

เคล็ดลับที่อยากแนะนำ

คือ นั้น การโยกคานและทำการปรับเบรกคันเบ็ดให้ไปอยู่ในจุดสไตร์ ในรอกของระบบ Lever Drag หรือทำการโยกคาน ฟรีสปูล ขึ้นไปในรอกของระบบ Star Drag และทำการปิดตัวกันพร้อมทั้งจับคันเบ็ดให้แน่นโดยที่ต้องให้ปลายของคันเบ็ดนั้นหันไปตามแนวของสายที่ออกไป พอสายเบ็ดที่ทำการสาวนั้นเริ่มมีความตึงขึ้นมาแล้ว ให้นักตกปลานั้นทำการตวัดคันเบ็ดสวนในทันที สัก 1- 2 ครั้งกันเหนี่ยว วิธีการนี้จะเป็นการที่นักตกปลานั้นส่งสายออกไปทำให้ปลากระโทงแทงนั้นสามารถที่จะกลืนเหยื่อได้ถึงกระเพาะเลยทีเดียว

** ต้องบอกก่อนว่าในเคล็ดลับที่ได้แนะนำไปนั้น ต้องเป็นการตกในรูปแบบที่นำปลาขึ้นมาเท่านั้น และไม่ปล่อยมันกลับลงไปสู่ทะเลอีกเป็นอันขาด เพราะหลังจากที่มันได้กลืนเบ็ดลงไปในกระเพาะแล้ว ปลาจะบาดเจ็บมาก และโอกาสรอดแทบจะไม่มีเหลือเลย หวังว่าความรู้และเคล็ดลับที่ผู้เขียนรวบรวมมาจะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย